ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง


กลายเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมข้องใจกับการทำงานของตำรวจไทยอีกครั้ง หลังจากมีการเปิดเผยว่าตำรวจที่ทำคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ขับรถชนดาบตำรวจเสียชีวิตนั้น ได้ปล่อยให้คดีขับรถเร็วเกินกว่ากำหนดหมดอายุความ โดยการไม่ส่งฟ้องตามกำหนดจนทำให้ล่าสุด ผบ.ตร. ต้องสั่งการลงมาให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ และ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เรียก พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผู้กำกับสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ 1 ในคณะกรรมการสอบสวนคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง พร้อมสำนวนการสอบสวนเข้าพบ เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ขาดอายุความ ส่งฟ้องนายวรยุทธไม่ทัน ทำให้เกิดข้อครหาต่อสังคม


         
 โดย พล.ต.อ.พงศพัศ ได้กล่าวว่า "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตรวจสอบว่า เหตุใดคดีดังกล่าว ข้อหาขับรถเร็วจึงขาดอายุความ โดยให้พิจารณาว่าเป็นความบกพร่องของพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน หรือบกพร่องในส่วนใด หากเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สั่งการให้ดำเนินการทั้งทางปกครองและทางวินัย และให้เสร็จภายใน 1-2 วัน รวมถึงพิจารณาว่า คดีนี้มีการวิ่งเต้นตามที่สังคมตั้งข้อสังเกตหรือไม่ พนักงานสอบสวนทำคดีอย่างตรงไปตรงมาด้วยความสุจริตยุติธรรม หรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งคดีดังกล่าว มีพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในรูปของคณะกรรมการ 6 นาย โดยมี พ.ต.อ.ไกรเมศ อุทัย รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ในขณะนั้นเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งการที่ปล่อยให้ข้อหาขับรถเร็วฯ หมดอายุความ จะต้องมีผู้รับผิดชอบ ขณะที่อัยการกำลังตรวจสอบ และจะชี้แจงต่อสื่อมวลชน เบื้องต้นยืนยันว่าตำรวจไม่ขัดแย้งกับอัยการในการทำคดีนี้
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังสั่งให้รื้อสำนวนคดีเก่าที่เกี่ยวข้องกับเมาแล้วขับทั่วประเทศ ที่สังคมมีข้อสงสัยในการทำงานของพนักงานสอบสวนว่ามีการวิ่งเต้นหรือไม่ โดยเริ่มต้นที่คดีทายาทกระทิงแดง ไม่ยกเว้นว่าจะเป็นคดีคนรวย หรือคนจน อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะรายงานข้อเท็จจริงให้ทราบในวันจันทร์นี้ จากนั้นตนจะเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพิจารณาสั่งการ"



        ซึ่งหลังจากนั้นพล.ต.ท.ศานิตย์ ได้ระบุต่อหน้าพนักงานสอบสวนคดีทายาทกระทิงแดง ว่า "เป็นความบกพร่องของพนักงานสอบสวนที่ให้ข้อหาขับรถเร็วฯ หมดอายุความ ซึ่งจะต้องดำเนินการในเรื่องของวินัยและอาญา รวมถึงพิจารณาว่าจะต้องรับผิดชอบทั้งคณะ หรือเป็นรายบุคคล"

          ทำให้เกิดการโต้เถียงกันเองขึ้น เมื่อพ.ต.อ.วิรดล ยืนยันว่า ทำสำนวนคดีอย่างตรงไปตรงมา และสามารถส่งฟ้องคดีได้ก่อนหมดอายุความ ยืนยันไม่มีการวิ่งเต้นให้ทำสำนวนคดีอ่อนลง จนทำให้ พล.ต.อ.พงศพัศ ต้องสั่งยุติการแถลงข่าว โดยขอให้ชี้แจงต่อผู้บังคับบัญชาก่อน เนื่องจากยังไม่สามารถให้รายละเอียดถึงสาเหตุที่คดีหมดอายุความได้.
อยากแชร์ต่อให้เพื่อนๆ:
Share on FB Tweet Share on G+ Submit to Digg