ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

จาก กรณีพบชิ้นส่วนมนุษย์เหลือหัวและลำตัว แขนและขาไม่มี ถูกเผายัดใส่ถุงดำโยนทิ้งอ่างเก็บน้ำห้วยบ้านยาง ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา สันนิษฐานว่าเป็นเหตุฆ่าหั่นศพนั้น
ล่าสุด (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. สภ.โพธิ์กลาง ได้ควบคุมตัว นายมนัส อายุ 63 ปีสัปเหร่อวัดยางใหญ่ ต.สุรนารี มาสอบสวน หลังติดต่อให้ผู้ใหญ่บ้านพาเข้าพบตำรวจ รับสารภาพว่า เป็นคนนำชิ้นส่วนศพไปทิ้งน้ำ โดยชิ้นส่วนศพดังกล่าวเป็นของ นายพิธาน อายุ 60 ปี ที่เสียชีวิตจากวัณโรค ญาติทำพิธีฌาปนกิจศพเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา
แต่เนื่องจากศพถูกแช่แข็งในโลงเย็นนานกว่า 5 วัน จนมีสภาพเป็นน้ำแข็ง ทำให้เผาไม่หมด เหลือชิ้นส่วนหัวและลำตัว จึงเก็บชิ้นส่วนใส่ถุงดำ แล้วนำใส่รถซาเล้งไปทิ้งน้ำเพื่อลอยอังคาร โดยไม่บอกให้ใครทราบ จากนั้นก็กลับบ้านไปใช้ชีวิตตามปกติ
นายมนัส เล่าต่ออีกว่า หลังผ่านไป 2 วัน เริ่มมีอาการนอนไม่หลับ กระวนกระวาย เหมือนมีวิญญาณมาหลอน และเห็นข่าวจากสื่อว่ามีคนพบชิ้นส่วนศพโยนทิ้งน้ำ จึงตัดสินใจบอกความจริงกับผู้ใหญ่บ้าน และไวยาวัจกรของวัด พาเข้ามอบตัว ยอมรับว่าทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และขอโทษญาติผู้เสียชีวิตและประชาชนทั่วไป ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดความสับสน
ส่วนทางด้าน นายเที่ยง อายุ 80 ปี ไวยาวัจกรวัดยางใหญ่ กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่สัปเหร่อของวัดเป็นคนนำชิ้นส่วนศพที่ไหม้ไม่หมดไปโดยทิ้ง น้ำ เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เนื่องจากศพที่นำมาเผาในเมรุถูกแช่แข็งไว้นาน
โดยนายมนัสสัปเหร่อของวัด ออกมายอมรับกับตนเองว่าเป็นคนทำจริงๆ พร้อมบอกว่าถูกวิญญาณผู้ตายตามหลอกหลอนจนนอนไม่หลับ จิตใจร้อนเป็นไฟ จึงต้องออกมารับยอมรับสารภาพความจริง
เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหานายมนัส รอสอบสวนอย่างละเอียด และผลผ่าพิสูจน์ชิ้นส่วนศพเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการต่อไป
siamupdate
อยากแชร์ต่อให้เพื่อนๆ:
Share on FB Tweet Share on G+ Submit to Digg