ล่าสุด (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. สภ.โพธิ์กลาง ได้ควบคุมตัว นายมนัส อายุ 63 ปีสัปเหร่อวัดยางใหญ่ ต.สุรนารี มาสอบสวน หลังติดต่อให้ผู้ใหญ่บ้านพาเข้าพบตำรวจ รับสารภาพว่า เป็นคนนำชิ้นส่วนศพไปทิ้งน้ำ โดยชิ้นส่วนศพดังกล่าวเป็นของ นายพิธาน อายุ 60 ปี ที่เสียชีวิตจากวัณโรค ญาติทำพิธีฌาปนกิจศพเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา
แต่เนื่องจากศพถูกแช่แข็งในโลงเย็นนานกว่า 5 วัน จนมีสภาพเป็นน้ำแข็ง ทำให้เผาไม่หมด เหลือชิ้นส่วนหัวและลำตัว จึงเก็บชิ้นส่วนใส่ถุงดำ แล้วนำใส่รถซาเล้งไปทิ้งน้ำเพื่อลอยอังคาร โดยไม่บอกให้ใครทราบ จากนั้นก็กลับบ้านไปใช้ชีวิตตามปกติ
นายมนัส เล่าต่ออีกว่า หลังผ่านไป 2 วัน เริ่มมีอาการนอนไม่หลับ กระวนกระวาย เหมือนมีวิญญาณมาหลอน และเห็นข่าวจากสื่อว่ามีคนพบชิ้นส่วนศพโยนทิ้งน้ำ จึงตัดสินใจบอกความจริงกับผู้ใหญ่บ้าน และไวยาวัจกรของวัด พาเข้ามอบตัว ยอมรับว่าทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และขอโทษญาติผู้เสียชีวิตและประชาชนทั่วไป ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดความสับสน
ส่วนทางด้าน นายเที่ยง อายุ 80 ปี ไวยาวัจกรวัดยางใหญ่ กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่สัปเหร่อของวัดเป็นคนนำชิ้นส่วนศพที่ไหม้ไม่หมดไปโดยทิ้ง น้ำ เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เนื่องจากศพที่นำมาเผาในเมรุถูกแช่แข็งไว้นาน
โดยนายมนัสสัปเหร่อของวัด ออกมายอมรับกับตนเองว่าเป็นคนทำจริงๆ พร้อมบอกว่าถูกวิญญาณผู้ตายตามหลอกหลอนจนนอนไม่หลับ จิตใจร้อนเป็นไฟ จึงต้องออกมารับยอมรับสารภาพความจริง
เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหานายมนัส รอสอบสวนอย่างละเอียด และผลผ่าพิสูจน์ชิ้นส่วนศพเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการต่อไป
siamupdate