ครอบครัวของ "น้องอั้ม" เด็กชายอายุ 5 ขวบ ร้องขอให้หน่วยงานต่างๆช่วยตามหา หลังหายออกจากบ้านไปแล้ว 5 วัน
(29 ก.พ.) นางสมหวัง ปะระกัง ชาวบ้านอำเภอเปือยน้อย จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นยายของน้องอั้มที่กำลังนั่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ซึ่งจากการสอบถามนางสมหวัง เล่าว่า ตนเองและสามีเป็นคนเลี้ยงดูน้องอั้มเนื่องจากลูกสาวของตนได้แยกทางกับสามีจากนั้นได้เข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ ตนจึงได้เป็นผู้ดูแลหลานชาย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ก.พ.59 ที่ผ่านมา หลังจากที่ไปรับน้องอั้มกลับจากโรงเรียนนั้น น้องอั้มก็ได้ขอเงินจากตนเพื่อจะนำไปซื้อขนม และออกไปเล่นกับเพื่อนในหมู่บ้านเหมือนทุกวัน และในวันดังกล่าวนั้น น้องอั้ม ได้บอกตนเองว่าจะไปเล่นกับเพื่อน ที่บริเวณ สระวงษ์ หนองน้ำสาธารณะใกล้กับจุดให้บริการประชาชนของ สภ.เปือยน้อย ที่มีรถแบ็คโฮทำการขุดลอก และตนเองก็ได้กำชับเหมือนทุกครั้งว่าอย่าเข้าบ้านค่ำ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ก.พ.59 ที่ผ่านมา หลังจากที่ไปรับน้องอั้มกลับจากโรงเรียนนั้น น้องอั้มก็ได้ขอเงินจากตนเพื่อจะนำไปซื้อขนม และออกไปเล่นกับเพื่อนในหมู่บ้านเหมือนทุกวัน และในวันดังกล่าวนั้น น้องอั้ม ได้บอกตนเองว่าจะไปเล่นกับเพื่อน ที่บริเวณ สระวงษ์ หนองน้ำสาธารณะใกล้กับจุดให้บริการประชาชนของ สภ.เปือยน้อย ที่มีรถแบ็คโฮทำการขุดลอก และตนเองก็ได้กำชับเหมือนทุกครั้งว่าอย่าเข้าบ้านค่ำ
แต่หลังจากนั้นน้องอั้มก็ไม่ได้กลับมาตามเวลาเหมือนทุกวัน ตนเองจึงได้ออกติดตามหาตัวตามจุดที่น้องอั้มบอก และจุดที่น้องชอบไปเล่น แต่ก็ไม่พบตัวหลานชายของตนเอง จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นางสมหวัง ยังได้กล่าวอีกว่า อยากพบหลายชายเป็นอย่างมากไม่ว่าจะด้วยสภาพไหน ก็อยากจะเจอ และขอร้องคนที่ลักพาตัวหลานชายไป ก็ขอให้เอามาคืนเพราะตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับต้องกินยาเพราะเป็นห่วงและคิดถึงหลานชายเป็นอย่างมาก
จากการสอบถามนายสัญญา สีพุวงษ์ พนักงานขับรถแบ็คโฮ และทีมงาน ทราบว่าวันเกิดเหตุนั้นได้พบเห็นกลุ่มเด็กที่คาดว่าหนึ่งในนั้นเป็นน้องอั้มเข้ามานั่งเล่นดินทรายที่บริเวณนั้นจริง และก็ได้เห็นเจ้าหน้าที่มีการบอกกล่าวว่าอย่าเข้ามาใกล้บริเวณที่รถแบ็คโฮทำงาน หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าน้องอั้มไปที่ใดต่อ
ด้าน พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ พูลเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเปลือยน้อย เปิดเผยว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนรับแจ้งความแล้วก็ได้ให้ชุดสืบสวนออกติดตามหาข้อมูล และทราบว่าที่บริเวณขอบสระวงษ์ หนองน้ำสาธารณะใกล้กับจุดให้บริการประชาชน ที่กำลังมีการขุดลอก เป็นจุดสุดท้ายที่มีผู้พบเห็นน้องอั้ม เล่นอยู่ใกล้รถแบ็คโฮที่กำลังขุดดินอยู่
ทั้งนี้ แม้ว่าจุดที่น้องอั้มหายไปจะใกล้กับจุดบริการประชาชน ของ สภ.เปลือยน้อย แต่เนื่องจากวันเกิดเหตุมีการจัดตลาดนัดประจำสัปดาห์ ทำให้คนพลุกพล่าน และจากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกจัดระเบียบจราจรตรงจุดนี้ ระบุว่า ได้บอกให้เด็กน้อยกลับบ้าน เพราะคุ้นเคยกับเด็กที่เที่ยวเล่นบริเวณนี้เป็นประจำ
นางสมหวัง ยังได้กล่าวอีกว่า อยากพบหลายชายเป็นอย่างมากไม่ว่าจะด้วยสภาพไหน ก็อยากจะเจอ และขอร้องคนที่ลักพาตัวหลานชายไป ก็ขอให้เอามาคืนเพราะตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับต้องกินยาเพราะเป็นห่วงและคิดถึงหลานชายเป็นอย่างมาก
จากการสอบถามนายสัญญา สีพุวงษ์ พนักงานขับรถแบ็คโฮ และทีมงาน ทราบว่าวันเกิดเหตุนั้นได้พบเห็นกลุ่มเด็กที่คาดว่าหนึ่งในนั้นเป็นน้องอั้มเข้ามานั่งเล่นดินทรายที่บริเวณนั้นจริง และก็ได้เห็นเจ้าหน้าที่มีการบอกกล่าวว่าอย่าเข้ามาใกล้บริเวณที่รถแบ็คโฮทำงาน หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าน้องอั้มไปที่ใดต่อ
ด้าน พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ พูลเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเปลือยน้อย เปิดเผยว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนรับแจ้งความแล้วก็ได้ให้ชุดสืบสวนออกติดตามหาข้อมูล และทราบว่าที่บริเวณขอบสระวงษ์ หนองน้ำสาธารณะใกล้กับจุดให้บริการประชาชน ที่กำลังมีการขุดลอก เป็นจุดสุดท้ายที่มีผู้พบเห็นน้องอั้ม เล่นอยู่ใกล้รถแบ็คโฮที่กำลังขุดดินอยู่
ทั้งนี้ แม้ว่าจุดที่น้องอั้มหายไปจะใกล้กับจุดบริการประชาชน ของ สภ.เปลือยน้อย แต่เนื่องจากวันเกิดเหตุมีการจัดตลาดนัดประจำสัปดาห์ ทำให้คนพลุกพล่าน และจากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกจัดระเบียบจราจรตรงจุดนี้ ระบุว่า ได้บอกให้เด็กน้อยกลับบ้าน เพราะคุ้นเคยกับเด็กที่เที่ยวเล่นบริเวณนี้เป็นประจำ
จากการสืบสวนเบื้องต้นก็เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 3 ประเด็นคือ ประเด็นที่แรกนั้น คาดว่าน้องอั้ม อาจถูกผู้ไม่หวังดีหรือขอทานล่อลวงไป เพราะวันดังกล่าวนั้นมีการจัดตลาดนัดทำให้มีบุคคลทั้งในและนอกพื้นเข้ามาเป็นจำนวนมาก ประเด็นที่สอง เป็น เรื่องในครอบเนื่องจากทราบว่าพ่อแม่เด็กแยกทางกัน ส่วนในประเด็นที่สามนั้นเป็นเรื่องอุบัติเหตุจมน้ำหรือไม่ แต่เบื้องต้นก็ให้น้ำหนักไปทางประเด็นที่แรก
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังได้รายงานเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากที่ทราบว่าจุดสุดท้ายที่พบตัวน้องอั้มแล้ว ทางผู้สื่อข่าวได้เดิมสำรวจบริเวณดังกล่าว พบว่ามีกล้องวงจรปิดคาดว่าเป็นของทางเทศบาลฯ ที่มีเครือไม้เลื้อยปกคลุม 2 ตัว ถูกตัดสัญญาณไฟฟ้าใช้งานไม่ได้ ส่วนกล้องวงจรปิดอีกตัวหนึ่งที่บริจัดตลาดนัด ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล อยู่ในสภาพหน้าเลนส์หันขึ้นฟ้า ส่งผลให้ตำรวจไม่สามารถเชื่อมต่อเหตุการณ์ และเวลาหลังจากจุดสุดท้ายที่น้องอั้มหายตัวไป ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงต้องอาศัยพยานบุคคลชี้นำเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังได้รายงานเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากที่ทราบว่าจุดสุดท้ายที่พบตัวน้องอั้มแล้ว ทางผู้สื่อข่าวได้เดิมสำรวจบริเวณดังกล่าว พบว่ามีกล้องวงจรปิดคาดว่าเป็นของทางเทศบาลฯ ที่มีเครือไม้เลื้อยปกคลุม 2 ตัว ถูกตัดสัญญาณไฟฟ้าใช้งานไม่ได้ ส่วนกล้องวงจรปิดอีกตัวหนึ่งที่บริจัดตลาดนัด ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล อยู่ในสภาพหน้าเลนส์หันขึ้นฟ้า ส่งผลให้ตำรวจไม่สามารถเชื่อมต่อเหตุการณ์ และเวลาหลังจากจุดสุดท้ายที่น้องอั้มหายตัวไป ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงต้องอาศัยพยานบุคคลชี้นำเพียงอย่างเดียว