จากคดีสะเทือนขวัญที่ทำคนทั้งประเทศรู้สึกรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง กรณีนางสาว สุดา ทองดี อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการลงมือก่อเหตุใช้ไม้แทงน้องไอดิน ทารกแรกเกิด ซึ่งเป็นบุตรแม้ๆในสายเลือดนำไปฝังดินทั้งเป็น กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตั้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย และทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกินเก้าปีไว้ ณ ที่ใด เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตราย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 นางบุญมา บาลี อายุ 65 ปี เป็นมารดาของผู้ต้องหา ได้ออกมาความรู้สึกทั้งน้ำตาว่า “นางสาวสุดา เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 3 คน เมื่อนางสาวสุดามีครอบครัวจึงแยกสร้างบ้านอยู่ใกล้ๆกัน กับสามีและลูกชายสองคน เรื่องการตั้งครรภ์และการฆ่าลูกตัวเองของนางสาวสุดานั้น ตนและญาติพี่น้องเห็นความเปลี่ยนแปลงของนางสาวสุดา แต่เมื่อทุกคนถาม ก็ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้ต้องครรภ์ อาจจะเป็นเพราะกลัว เนื่องจากสามีทำหมันมาหลายปีแล้ว การทำร้ายและฝังลูกตัวเอง บอกตามตรงว่า ยอมรับไม่ได้ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะแก่แล้ว”
“เมื่อรู้ว่าหลานที่คลอดออกมาเป็นผู้ชายและยังมีชีวิตอยู่ก็ดีใจและอยากไปเยี่ยม แต่คงไปตอนนี้ไม่ได้ ทั้งอยากรับหลานมาเลี้ยงเอง แต่ไม่มีรายได้ ไม่มีใครช่วยเลี้ยง หากมีคนใจบุญรับไปเลี้ยงก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีจะทำให้หลานมีอนาคตที่ดี เพราะเมื่อหลานชายโตขึ้นมา เขาจะได้ไม่มารับรู้เรื่องไม่ดีที่แม่ผู้ให้กำเนิดทำไว้”
ทั้งนี้บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่นได้มองเงินจำนวน 2,000 บาท เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือ เนื่องจากผู้ต้องหามีบุตรอีก 2 คนที่ผู้เป็นยายกำลังดูแลอยู่ โดยพ่อของเด็กทั้งสองได้หายหน้าไปตั้งแต่ที่ทราบว่าภรรยาโดนจับ