ไม่ ได้ดังมาจากรายการเดอะเฟส หรือรายการประกวดเวทีไหนทั้งนั้น สำหรับน้องโอปอลล์ เพราะหล่อนแทบจะไปทุกเวทีทุกรายการประกวดสาวงามในเมืองไทย แต่ตกรอบแรกหมดจ้า!! ส่วนใหญ่โดนติงว่าหน้าตาแบบนี้เหรอ!! ช่างกล้ามาประกวด เหมือนกะเทย! หน้าป่วย ดูต่ำ! ดูไม่แพง! เจอคำดูถูกสารพัด แต่คำพูดเหล่านั้นกลับทำให้นักศึกษาสาวนิติศาสตร์ปีสามแห่งรั้วแม่โดม ชาวอุดรคนนี้ไม่เคยท้อถอย กลับเดินหน้าฝึกฝนตัวเอง จนปัจจุบันก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบสุดฮอตมาแรงที่เอเจนซี่ต่างชาติอยากได้ไป ร่วมงานมากที่สุด เปล่งรัศมีเจิดจ้าผิดแปลกไปจากเมื่อสองปีก่อนที่ โอปอลล์ เริ่มต้นเดินตามฝันของตัวเองในการเป็นนางแบบเพราะได้แรงบันดาลใจจาก ยุ้ย รจนา อดีตนางแบบชื่อดังระดับโลกหนึ่งเดียวคนไทยที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ Chanel
เปิด ใจดีไซเนอร์ชื่อดัง ป๋อง ซีเบท แห่ง Zibeth Thailand แบรนด์อันดับหนึ่งของเมืองไทยที่เหล่าดารา คนดัง เซเล็ปไฮโซแห่ตัดชุด เผยความรู้สึกตื่นเต้นที่น้องโอปอลล์ เด็กบ้านนอกหน้าตาป่วยๆมาไกลมากจนแทบไม่อยากเชื่อ
“พี่ กับทีมงานที่รู้จักกัน เคยพาน้องโอปอลล์ ไปประกวดหลายเวทีในเมืองไทย ไม่บอกดีกว่าเวทีไหน เชื่อมั้ยกรรมการให้น้องตกรอบแรกหมด!!! กรรมการเมืองไทยรสนิยมต่ำ! ตาไม่มีแวว พวกที่ได้ตำแหน่งไม่เห็นมีใครได้งานหรือดังสักคน สู้น้องโอปอ สาวบ้านนา คนนี้ไม่ได้สักคน มีแต่คนบอกว่าหน้าป่วย โดนติสารพัดแต่พี่โคตรเชื่อมากว่า คนนี้เกิดได้แน่นอน คนนี้มีของ เขาไม่เหมือนนางแบบทั่วไปที่หาได้เกลื่อน เลยผลักดันสุดๆ ผ่านมาไม่นาน น้องมีงานเดินแบบ ถ่ายแบบมากกว่าพวกได้ตำแหน่ง นี่ ยังไม่พาไปแคสเมืองนอกนะจ้ะ จะปังและดังกว่านี้มาก นี่แหละเรียกว่าของจริงเลยแหละคนนี้” ป๋อง ซีเบท ประทับตรา!!
ทาง ด้านน้องโอปอลล์ ได้เผยความรู้สึกเหมือนกันว่าเส้นทางกว่าจะได้มาเป็นนางแบบมืออาชีพทุก วันนี้ไม่ได้ง่าย “เจอคนพูดกรอกหูว่า อย่างเธอเป็นนางแบบไม่ได้หรอก ที่แรงสุดคือโดนด่าบนเวทีจากกรรมการชื่อดังคนหนึ่งว่า หน้าเหมือนกะเทยภูธร คำสบประมาทล้วนเป็นแรงผลักดันให้เราต้องพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ..ถ้าวันนั้น เรายอมรับว่า เออ…จริงอย่างที่เขาพูด หนูคงเป็นนางแบบไม่ได้เพราะคนอื่นบอกว่าเราเป็นไม่ได้ หนูควรหยุดคิดที่จะเป็นนางแบบและล้มเลิกความตั้งใจซะ..ถ้าวันนั้นโอปอลล์ เชื่อในคำที่เขาพูดและล้มเลิกความฝันที่จะเป็นนางแบบ ก็คงไม่มีหนูในวันนี้..เชื่อมั่นในพลังของตนเอง เชื่อมั่นว่าคนทุกคนมีศักยภาพในตัวเองค่ะ”