เป็นเรื่องแปลก และไม่อยากจะเชื่อ แม่เฒ่าวัย 88 ร่างกายยังแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว จู่ๆ กลับผูกคอตายที่ศาลาห่างบ้านไม่ถึง 100 เมตร หลานสาวสุดช็อก เพิ่งฝันเห็นตาที่ตายไปหลายปีมาขอเอาคนในบ้านไปอยู่ด้วย เพราะไม่มีใครหุงข้าวให้กิน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 มี.ค. 59 ร.ต.ท.สัมภาษณ์ ผลถาวร รอง สว. (สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตที่ศาลาพักร้อนข้างบ่อเลี้ยงปลา หมู่ 9 บ้านกลาง ต.ปริก จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ทุ่งใหญ่
ที่เกิดเหตุพบเพียงเชือกผ้าสีฟ้าผูกแขวนอยู่กับขื่อหลังคาศาลา ส่วนศพผู้เสียชีวิต ญาติได้ช่วยกันปลดเชือกออกจากลำคอ นำกลับไปที่บ้านซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ตาย เลขที่ 137 หมู่ 9 บ้านกลาง ต.ปริก อยู่ห่างจากจุดที่ผูกคอไม่ถึง 100 เมตร ทราบชื่อคือ นางกิ้มจ้าย วิฑูรย์พันธ์ อายุ 88 ปี สภาพศพบริเวณลำคอมีรอยเชือกรัดเป็นวงรอบจนเขียวช้ำ อยู่ในชุดเสื้อลายดอกสีสดใส นุ่งผ้าถุง
สอบสวน นายสมศักดิ์ จันทร์ประกอบ อายุ 40 ปี หลานเขยที่ไปพบศพคนแรกให้การว่า ตอนเช้าตื่นขึ้นมาจะเอาอาหารไปให้ปลาที่เลี้ยงไว้ในบ่อปลา ห่างจากบ้านไม่ถึง 100 เมตร ขณะที่เดินไปได้เพียง 60 เมตร มองลงไปที่ศาลาซึ่งอยู่ด้านล่างต่ำลงไปจากที่ตนยืนอยู่ ก็เห็นร่างของ นางกิ้มจ้าย ใช้เชือกผูกคอติดกับขื่อหลังคาศาลาที่พัก ในสภาพนั่งยองกับพื้นศาลา โดยขาทั้งสองข้างห้อยลงไปเพียงเล็กน้อย จึงวิ่งไปตามญาติให้มาช่วยกันแก้มัดเชือกออกจากลำคอ จากนั้นนำกลับมาที่บ้าน แต่พบว่าได้เสียชีวิตไปแล้ว
ด้าน นางเพียงขวัญ เจริญผล อายุ 47 ปี หลานสาวของ นางกิ้มจ้าย กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาซึมว่า โดยปกติผู้ตายเป็นคนร่าเริง มีร่างกายที่แข็งแรง ทั้งๆ ที่อายุมากแล้ว ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีเรื่องของความเครียดเข้ามา และไม่เคยมีปัญหาใดๆ กับคนในบ้านเลย เป็นที่รักของลูกหลานและเพื่อนบ้านทุกคน แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตนได้ฝันเห็นพ่อเฒ่าคือ นายบรรจบ วิฑูรย์พันธ์ สามีของนางกิ้มจ้ายที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน มาเข้าฝันตนว่าจะมารับ นางหนูจีบ แสงไพรฑูรย์ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นแม่ของตน และเป็นลูกของ นายบรรจบ กับ นางกิ้มจ้าย ไปอยู่ด้วย
นางเพียงขวัญ กล่าวต่อว่า ในฝันตนได้บอกกับ นายบรรจบ ไปว่า จะไม่ยอมให้ใครไปอยู่ด้วย พ่อเฒ่าเลยบอกกับตนว่า งั้นกูก็จะเอาแม่เฒ่าของมึงไปอยู่กับกูด้วย เพราะกูอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครหุงข้าวให้กูกิน ตนก็ได้ตอบกลับไปในฝันว่า จะไม่ให้ใครไปอยู่ด้วยสักคนเดียว กระทั่งตกใจตื่นขึ้นมา จนรุ่งเช้าจึงนำเรื่องที่ฝันไปเล่าให้คนในบ้านฟัง ทุกคนต่างบอกว่าไม่เป็นไรหรอกฝันร้ายจะกลายเป็นดี เพราะพ่อเฒ่าก็ตายไปหลายสิบปีแล้ว คงจะไปเกิดใหม่แล้วในขณะนี้
"หลังจากที่ฝันไม่ดีในวันถัดไป ก็ได้ไปทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับพ่อเฒ่าที่วัดข้างบ้าน ในวันเกิดเหตุ ตื่นนอนตอนเช้ากำลังจะไปหาหมอที่อนามัยใกล้บ้าน ออกมาก็พบกับนางกิ้มจ้าย ซึ่งตื่นนอนแต่เช้ามานั่งเล่นที่โต๊ะใต้ถุนบ้าน ได้พูดคุยและหยอกล้อกันตามประสาลูกหลานเหมือนเช่นทุกวัน โดยได้เอามือไปจับที่ใต้คางของยาย รู้สึกว่ามันเย็นและสั่นๆ ผิดปกติไป ทำให้รู้สึกว่าจะเป็นลางสังหรณ์ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ดี จากนั้นก็ออกจากบ้านไปหาหมอ กลับเข้าบ้านอีกทีก็เห็นคนมาออกันเต็มหน้าบ้านแล้ว สอบถามทราบว่า แม่เฒ่าผูกคอตายไปเมื่อไม่นานนี้เอง" นางเพียงขวัญกล่าว พร้อมกับย้ำว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเรื่องที่ฝันกลับกลายเป็นความจริง อีกทั้งญาติๆ ก็เชื่อว่า เป็นพ่อเฒ่านั่นแหละที่มาเอาแม่เฒ่าไปอยู่ด้วย
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังชันสูตรพลิกศพเป็นที่เรียบร้อย ได้สอบถามญาติๆ ซึ่งไม่มีใครติดใจในการตายครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ จึงนำศพไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.ทุ่งใหญ่ ก่อนที่จะมอบศพให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.