วันที่ 22 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สน.หลักสอง เจ้าหน้าตำรวจ สน.หลักสอง ได้นั่งวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อดำ ที่ประดิษฐานไว้หน้า สน.หลักสอง โดยพบว่ามีคนพิเรน เอาดอกไม้สีแดง(ดอกกุหลาบ) มาถวาย องค์หลวงพ่อดำ ซึ่งถือว่าเป็นลางร้าย จะเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับการฆาตกรรมขึ้น และก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ โดยพบว่า มีคนตายศพแรก เป็นนักฟุตบอล และ ศพที่ 2 เป็นนักศึกษา ในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนนายหนึ่ง เปิดเผยถึงความศักดิ์สิทธิ์ ขององค์หลวงพ่อดำองค์นี้ว่า หลวงพ่อดำองค์นี้ เป็นพระพุทธรูป สมัยทวารวดี เดิมที่ หลวงพ่อดำ ซึ่งอยู่ที่โรงพักหลักสองซึ่งเดิมอยู่ริมคลองภาษีเจริญ ซอยเพชรเกษม 63 ต่อมาได้มีการย้ายโรงพักมาที่สถานีดับเพลิงบางแค ซึ่งเป็น โรงพักชั่วคราว ในซอยเพชรเกษม 41 ประมาณปี 2520 แต่ไม่มีใครนำหลวงพ่อดำมาที่โรงพักดับเพลิง และต่อมาเมื่อสถานีตำรวจหลักสองซึ่งอยู่ที่ปัจจุบัน สร้างเสร็จ ปี 2529 ก็ยังคงมีหลวงพ่อดำประดิษฐานไว้ที่ศาลาเดิมในซอย เพชรเกษม 63
ซึ่งขณะนั้น ด.ต.สำราญ รอดวิมุติ ซึ่งปัจจุบันเกษียณไปแล้ว ได้ฝันเห็นองค์หลวงพ่อดำว่า ท่านขอให้เอาองค์ท่านมาไว้ที่นี้ จึงได้มีการอัญเชิญหลวงพ่อดำ มาไว้ที่สถานีตำรวจ สน.หลักสอง ในปัจจุบัน จึงมีการตั้งศาลา ประดิษฐาน หลวงพ่อดำไว้ กระทั่งถึงปัจจุบัน
โดยสถานีตำรวจ สน.หลักสอง ถือว่าเป็นสถานีตำรวจที่อยู่แถบชานเมือง ย่านฝั่งธน โรงพักหนึ่ง และไม่ค่อยจะมีคดี เกี่ยวกับการฆาตกรรม นานๆ จะมีสักครั้งหนึ่ง แต่ก็สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้
แต่เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ได้มีคนเอาดอกไม้แดงมาถวายกับองค์หลวงพ่อดำองค์นี้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า ส่งผลให้เกิดคดีซ้ำซ้อนกันถึง 2 คดี ในช่วงไม่ถึงอาทิตย์ คือ คดีแรก เป็น คดี กลุ่มวัยรุ่น ยิงพลาดโดน นายอลงกต ชันแสง นักฟุตบอล เสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ภายในหมู่บ้านเศษฐกิจ และเมื่อวันที่ 19 เม.ย. เกิดเหตุนายฉัตรชัย โพธิ์เมือง อายุ 24 ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งทั้ง 2 คดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการติดตามคนร้ายอยู่
สำหรับ การถวายดอกไม้กับองค์หลวงพ่อดำ จะถวายดอกไม้สีอะไรก็ได้ แต่ห้ามมีสีแดง และถ้ามีใครเอาดอกไม้สีแดงมาถวาย จะมีเจ้าหน้าที่ นำไปทิ้งทันที เหมือนกับจะมีลางบอกเหตุ ให้มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์และความเชื่อที่เกิดขึ้นในโรงพัก โดยเฉพาะที่ สน.บางเขน ต่างเป็นที่รู้กันถึงสิ่งของต้องห้ามนำมาไหว้ศาล คือ ดอกไม้สีแดง หรือผ้าสีแดง ด้วยความเชื่อที่ว่าอาจมีเหตุร้ายและคดีใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ รวมไปถึงเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง
อย่างในอดีตที่ผ่านมามีการกล่าวถึงอาถรรพ์ดอกไม้สีแดงกับศาล ตามความเชื่อที่ว่าดอกไม้สีแดงหรือผ้าแดงนั้น เปรียบเสมือนไฟและสีเลือด ที่จะทำให้โรงพักนั้นร้อนเป็นไฟ ก่อนตามมาด้วยเรื่องและคดีอาชญากรรมไหลมาเทมาไม่ขาดสาย พากันวุ่นวายไปทั้งโรงพัก จนกลายเป็นตำนานอาถรรพ์ “ดอกไม้สีแดง” ที่ทำให้ตำรวจหลายโรงพักขนหัวลุก