นี้คือสิ่งสมควรที่จะแชร์เขาเหล่านี้เป็นผู้รักษาแผ่นดินของเรา ให้เราได้อยู่สุขสบาย ไม่ใช่ ไปสนใจแต่ดารา รถคว่ำไม่ถึงตายแชร์กันทั่วประเทศ แต่ชีวิต ของทหารอาจตายได้ทุกเวลา เพียงวินาทีเดียวก็มีค่า ไม่เห็น จะมีใครสนใจเรื่องราวเหล่านี้บ้าง พอที่จะให้เขามีกำลังสู้ต่อไป
ทุกนาทีชีวิตแลกกับเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง และยศ
เมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่บนพื้นที่เสี่ยงอย่าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงต้องมีค่าตอบแทนสูงให้สมน้ำสมเนื้อ กับชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะกลับมาด้วยสภาพธงชาติไทยคลุมร่างก็ตาม
แหล่งข่าวจากกรมทหารราบที่ 11 ให้ข้อมูลว่า ถ้า ไปประจำการที่ภาคใต้ พลทหารจะได้สิทธิพิเศษ ตั้งแต่การเพิ่มเบี้ยเลี้ยงที่ขึ้นมาเป็นเท่าตัว ประมาณ 500 บาท/คน/วัน ซึ่งแตกต่างจากทหารพรานที่ได้เบี้ยเลี้ยงแค่ 120 บาท/คน/วันเท่านั้น และอาจได้เพิ่มยศตามลำดับขั้น ปรับขึ้นเงินเดือน (ตามผลงาน) นอกจากนี้ยังได้บัตรทหารผ่านศึก ซึ่งจะได้สิทธิพิเศษเรื่องค่ารักษาพยาบาล ปีละไม่เกิน 2,000 บาท/ครอบครัว, เงินช่วยเหลือครั้งคราว ปีละไม่เกิน 500 บาท และการฝึกอาชีพ
ทั้งนี้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจาก สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2550 ยังได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาทหารเช่นกัน
อย่างกรณีทหารเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ของรัฐบาล เบิกจ่ายโดยสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีผ่านสำนักงานจังหวัด รายละ 500,000 บาท ค่าจัดการศพจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) หัวหน้าครอบครัวรายละ 50,000 บาท สมาชิกครอบครัวรายละ 25,000 บาท เงินช่วยเหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายละ 20,000 บาท รวมแล้วจะได้รับเงินในส่วนนี้เฉลี่ยรายละ 570,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีเงินเพิ่มพิเศษของข้าราชการทหารพลีชีพ โดยได้รับเงินตามโครงการประกันชีวิตของกระทรวงกลาโหมสำหรับทหารทุกนาย ทุกชั้นยศ รายละ 500,000 บาท เฉพาะกองทัพบกมีเงินประกันชีวิตแยกต่างหากอีก แบ่งเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรรายละ 1,000,000 บาท นายทหารชั้นประทวน (นายสิบ) รายละ 800,000 บาท พลทหารและอาสาสมัครทหารพราน รายละ 500,000 บาท
ดังนั้นเมื่อรวมกับเงินกองทุนฯของรัฐบาล ทหารที่เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือรวมทั้งสิ้นเฉลี่ยรายละประมาณ 1,570,000 บาท ถึง 2,070,000 บาท โดยไม่รวมเงินบำเหน็จบำนาญ (คิดตามอายุราชการและตามชั้นยศ) เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ และเงินเพิ่มเพื่อการสู้รบ (พ.ส.ร.)
กรณีได้รับบาดเจ็บ จะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 763,000 บาท บาดเจ็บสาหัส 306,000 บาท บาดเจ็บทั่วไป 65,000 บาท บาดเจ็บเล็กน้อย 15,000 บาท
นอกจากนั้นยังมีเงินยังชีพรายเดือนสำหรับบุตรของผู้เสียชีวิต พิการ และบาดเจ็บสาหัส เป็นเงินที่เบิกจ่ายโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เฉลี่ยคนละ 1,000-2,500 บาทต่อเดือนตามระดับชั้นการศึกษา และทุนการศึกษาเป็นรายปี เบิกจ่ายโดยกระทรวงศึกษาธิการ เฉลี่ยรายละ 5,000-20,000 บาทตามระดับชั้นการศึกษาเช่นกัน
เสียงปืนสนั่นก้องไปทั่วทั้งป่า ทันทีที่สิ้นเสียง ร่างชายชาติทหารถูกปลิดชีพเพียงชั่วพริบตา ความรุนแรง ความเจ็บปวด ความตาย เกิดขึ้นบนพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งไม่มีค่ำคืนไหนเงียบสงัดได้ยาวนาน “3จังหวัดชายแดนภาคใต้”
เหตุการณ์เหล่านี้เหมือนหนังที่ถูก ฉายซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้จักสิ้นสุดของเหล่าทหารอาสา และกำลังพลที่ต้องลงประจำพื้นที่เสี่ยงเพื่อเผชิญหน้ากับปัญหาไฟใต้ โดยไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะมีชีวิตอยู่เพื่อหายใจต่อได้อีกครั้งหรือไม่ แลกกับการปกป้องประเทศชาติและคนไทย เพื่อให้ทุกคนอยู่อย่างสงบสุขอีกครั้ง
นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รุนแรงบริเวณ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนกระทั่งถึงตอนนี้ได้ผ่านมานานถึง 9 ปีแล้ว ทำให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมาย และที่มีค่ามากกว่าทรัพย์สินใดๆ นั่นคือชีวิตของเหล่าทหารผู้กล้า ที่ต้องมาสละชีพแทบทุกครั้งที่เกิดความไม่สงบ เช่นเดียวกับที่ผู้พันเบิร์ด เคยบอกว่า
” อย่าสงสารทหารที่ต้องทำหน้าที่นี้ เพราะหน้าที่เหล่านั้น…พวกผมได้เลือกแล้ว ‘
การลงประจำการในพื้นที่ความไม่สงบ ไม่ต่างจากการยินยอมพร้อมใจที่จะเผชิญหน้ากับความตายได้ทุกขณะในทุกๆวันประเทศไทยสูญเสียกำลังทหารมามากเท่าไหร่ และจะต้องสูญเสียอีกเท่าไหร่ คงไม่มีใครตอบได้
” หากต้องตาย ศพจะต้องคลุมด้วยธงชาติไทยเท่านั้น “
กอดปืนยืนยาม เที่ยงคืนกว่าๆ เสียงลูกระเบิด เสียงปืนดังมา
หัวหน้าชุดบอกว่า ไปดูทันที พลทหาร ณ ชายแดน
แสงสว่างทางนั้น….คือทางสงบมั้ย
ถ้าใช่เดี๋ยวผมจะเดินไปให้ถึง
พี่ๆทหาร เขาอยู่แนวหน้า เสี่ยงอันตรายในทุกๆวินาทีเพื่อคอยปกป้องแผ่นดินไทยจากพวกก่อความไม่สงบต้องจากบ้านเกิดเมืองนอน จากคนผู้เป็นที่รัก เพื่อมาทำหน้าที่รับใช้ประเทศชาติในคืนวันศุกร์ วันเสาร์เค้าก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน คงได้แต่นอนกอดปืน
คนที่อยู่แนวหลัง วันนี้คุณทำประโยชน์อะไรให้กับแผ่นดิน ไทยของเราบ้างหรือยัง