จากกรณีนางบังอร ทองอ่อน อายุ 52 ปี เจ้าแม่เงินกู้ถูกแก๊งสีกาอุ้มฆ่าเผานั่งยาง 2 ปี ในป่าสงวนแห่งชาติป่ากุดจับ บ้านคำบอนเวียงชัย ต.หนองแวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี แต่คดีไม่คืบ ญาติได้ร้องสื่อมวลชนและพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็น “สุสานเผานั่งยาง” มีร่องรอยเศษกระดูกมนุษย์ และยางรถยนต์ 15 จุด ทำให้ ผบช.ภ.4 รุดเข้าตรวจสอบพื้นที่ และสั่งรื้อคดีเจ้าแม่เงินกู้ขึ้นมาใหม่ พร้อมกับสั่งทีมสืบสวนสอบสวนหาประจักษ์พยาน และหลักฐานเชื่อมโยงที่ขาดหาย เพื่อออกหมายจับแก๊งสีกากีโหดมาดำเนินคดีให้ได้ พร้อมกับแจ้งญาติผู้สูญหายมาตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับกองกระดูกมนุษย์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 23 เมษายน 59 เวลา 10.00 น. พ.ต.ต.อัมพร ปลัดพรมมา สว. สอบสวน สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากข่าว “สุสานเผานั่งยาง” เผยแพร่ออกไป และให้ญาติผู้สูญหายมาแจ้งความประสงค์ขอตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบกับกองกระดูกมนุษย์ โดยได้มีนายวรรลพ แสนสกุล อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 10 ต.ขอนยูง อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เดินทางมาแจ้งความประสงค์ขอตรวจดีเอ็นเอ เพราะนายสาย แสนสกุล อายุ 61 ปี พ่อได้หายออกจากบ้านโดยบอกว่าจะเดินทางไป สปป.ลาว เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2551 จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ และได้แจ้งคนหายไว้ที่ สภ.กุดจับ จ.อุดรธานี เป็นรายแรก
รายที่สอง ได้มีนางศริยา สีหราช อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 6 ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี มาแจ้งความประสงค์ขอตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจากนายเอกพันธ์ สระเหลาพิมพ์ อายุ 20 ปี บุตรชายได้หายสาบสูญออกจากบ้านโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่สามารถต่อต่อได้ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2552 ได้แจ้งคนหายไว้ที่ สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
ส่วนนายอนุสรณ์ ทองอ่อน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172 หมู่ 13 บ้านดงบัง อ.โนนทอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นลูกชายนางบังอร ทองอ่อน อายุ 52 ปี เจ้าแม่เงินกู้นอกระบบ ที่ถูกแก๊งสีกากีนอกรีต อุ้มฆ่าเผานั่งยาง เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2557 แต่คดีไม่คืบแก๊งคนร้ายยังลอยนวล ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนสื่อมวลชนว่าให้เร่งรัดคดี และนำชี้จุดเผานั่งยาง 15 จุดบริเวณที่พบศพนางบังอร โดยนายอนุสรณ์ ทองอ่อน ได้ทำการจุดธูปบอกกล่าวต่อหน้ารูปแม่ว่า ตำรวจได้ทำการรื้อคดีขึ้นใหม่ และของให้ดวงวิญญาณของแม่ไปดลใจให้ตำรวจหาหลักฐานจับกุมแก๊งคนร้ายที่อุ้ม แม่ไปฆ่าเผานั่งยาง ให้จับกุมได้หมดทุกคน
นายอนุสรณ์ ทองอ่อน เปิดเผยว่า หลังจากแม่หายไป 2-3 วัน ได้ไปแจ้งตำรวจ ต่อมามีชาวบ้านไปเก็บเห็ดและพบแม่ถูกเผานั่งยาง และยังพบร่องรอยกองเศษกระดูกมนุษย์ถูกเผานั่งยางอีกจำนวนมากในบริเวณเดียว กัน แต่ยังไม่กล้าพูดเพราะกลัวภัยมืด แม้ว่าชาวบ้านจะเห็นรถผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นอดีตตำรวจ ขับรถปิกอัพมาจอดบริเวณกระท่อมนา จุดที่แม่ของตนถูกอุ้มหายไป แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกมาเป็นพยานในคดี เพราะรู้ว่าแก๊งดังกล่าวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ไม่เคยกลัวอะไร มีพฤติกรรมโหดเหี้ยมใจเย็น แม้ว่าผู้ต้องสงสัยจะถูกจับติดคุกตลอดชีวิตในคดีอื่น ติดคุกคนเดียวแต่ยังมีแก๊งสีกากีโหดหลงเหลืออยู่ เพราะตนคิดว่าทำคนเดียวไม่ได้ ตนเชื่อว่ามีนกต่อล่อแม่ตนออกไปให้ถูกฆ่าด้วย แต่หลังจากมีหลายฝ่ายเข้ามาเร่งรัดคดีของแม่ ตนก็มีความหวัง และอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่จับแก๊งดังกล่าวให้หมด
ชาวบ้านใน อ.บ้านผือ ขอสงวนชื่อ นามสกุล และปกปิดใบหน้า ซึ่งเคยถูกผู้ต้องสงสัยอุ้มขึ้นรถปิกอัพไปข่มขู่เอาเงิน และปล่อยตัวกลับมา ได้กล่าวว่า พฤติกรรมเหี้ยมโหดของแก๊งสีกากีดังกล่าวว่า ก่อนจะศพนางบังอร ประชาชนในพื้นที่อำเภอบ้านผือหวาดผวากลัวตำรวจนอกรีตกลุ่มหนึ่ง แม้ว่าหัวหน้ากลุ่มจะถูกจับในเรือนจำกลางอุดรธานีแล้วก็ตาม แต่ยังมีลูกน้องเหลืออยู่ประมาณ ไม่เกิน5 คน ประชาชนยังกลัวอยู่ เพราะตำรวจนอกราชการคนนี้มีอิทธิพลมากในบ้านผือ ถึงถูกจับก็ยังเหลือลูกน้อง จึงไม่มีใครกล้าให้ข้อมูลกับสื่อ และไม่มีใครกล้าเล่าว่าตำรวจนอกรีตกลุ่มนี้เป็นอย่างไร เพราะถ้าไม่พอใจใคร อยากได้อะไร อยากยืมเงินใคร จะเรียกขึ้นรถเพื่อยืมเงิน ส่วนมากจะให้เพราะกลัวอิทธิพล
สำหรับตำรวจต้องสงสัยอุ้มฆ่าเผานางบังอร จะมีอิทธิพลในพื้นที่ จะค้าไม้เถื่อน จะรับจ้างอุ้มฆ่าทั้งในพื้นที่ และต่างจังหวัด ประชาชนในพื้นที่ทราบดี แต่หลังจากถูกจับแล้วประชาชน เริ่มให้ข้อมูลบ้าง โดยแก๊งอุ้มฆ่าจะรับจ้างทุกงาน ถ้าได้ค่าจ้างตามที่ต้องการ ตั้งแต่ราคา 30,000- 100,000 บาท เมื่อพบศพอุ้มฆ่าเผานางบังอร ก็แน่ใจว่าเป็นแก๊งนี้ บริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งฆ่าเผานั่งยางของแก๊งนี้ พฤติกรรมอุ้มฆ่าแบบนี้เกิดมานานแล้ว ส่วนมากจะเป็นนักเลง โจรลักวัวควาย ยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุจะเป็นรถปิกอัพสีดำ ส่วนผู้บังคับบัญชาอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ แต่เมื่อมีพยานหลักฐานก็เริ่มพุ่งเป้าไปหาตำรวจนอกรีตแก๊งนี้ดังกล่าว