ที่ปราจีนบุรี นางปภาดา เพียรเจริญ กำนันตำบลเมืองเก่า ได้พานางอำไพ งามเคลือ อายุ 66 ปี พร้อม ด.ญ.เก๋ นามสมมุติ อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นหลานสาว พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่.16 บ้านเหล่าหลวง ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินทร์บุรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.วิฑูรย์ วงศ์ใหญ่ พนักงานสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
ด้านนางอำไพ งามเคลือ ผู้เป็นย่า เปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นได้เห็นอาการผิดปกติของ ด.ญ.เก๋ นามสมมุติซึ่งเป็นหลานสาว และเป็นลูกสาวคนเดียวของนายกิตติชัย ชินตุ๋ย อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนเด็ก และเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของ ด.ญ.เก๋ และกำลังเรียนอยู่ชั้น ม. 1 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ ต่อหลานสาวมีอาการผิดปกติมีลักษณะรูปร่างอ้วน และหน้าอก (นม) ใหญ่ผิดปกติเหมือนคนตั้งท้อง จึงได้เรียกหลานมาสอบถามหาความจริงแต่หลานสาวไม่ยอมรับบอกว่าตัวเองอ้วน
จนกระทั่งเวลาผ่านไปท้องเริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน ความลับก็ถูกเปิดเผยขึ้น โดย ด.ญ.เก๋ กล่าวว่า ได้ถูกพ่อคือนายกิตติชัย ผู้เป็นพ่อแท้ๆได้บังคับข่มขืนหลังจากที่กลับมาจากโรงเรียนทุกวันๆละ 1 -2 ครั้งภายในบ้านหลังดังกล่าว หลังจากที่ข่มขืนแล้วยังบังคับไม่ให้ไปกับบอกกับย่า เหตุเกิดมาตั้งแต่ก่อนเข้าพรรษาเมือ ปี 58 หลังจากที่ทราบข่าวจึงเรียกนายกิตติชัยมาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่นายกิตติชัยไม่พูดอะไรและเดินหนีไป จนกระทั่งมีชาวบ้านทนดูไม่ไหวจึงแจ้งตำรวจให้มาจับ
นางอำไพ ยังเปิดเผย อีกว่า ตนมีฐานะอยากจนต้องทำงานรับจ้างทั่วไป มักจะกลับเข้าบ้านมืดคว่ำทุกวัน ส่วนด.ญ.เก๋ ได้ถูกแม่ทิ้งตั้งแต่เล็กๆหลังจากติดคุกคดียาเสพติดที่จังหวัดระยองและกำลังต้องท้องได้ 2 เดือน จนกระทั่งคลอดในคุก จากนั้นตนได้มาเลี้ยงดูจนถึงปัจจุบัน ส่วนนายกิตติชัยซึ่งเป็นพ่อต้องคดียาเสพติดเหมือนกัน จากนั้นตนได้เลี้ยงดูหลานและส่งเรียน จนกระทั่งพ่อคือนายกิตติชัยพ้นโทษออกมาอยู่บ้านด้วย จนกระทั่งมาก่อคดีข่มขืนลูกสาวในไส้จนตั้งท้องได้ 8 เดือน
ด้าน ร.ต.อ.วิฑูรย์ วงศ์ใหญ่ พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า เบื้องตนได้สอบถาม ด.ญ.เก๋ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย ด.ญ.เก๋ ยังไม่ให้การใดๆและยังอยู่ในอาการเสียใจและร้องไห้ตลอดเวลา เบื้องต้นทราบว่า หลังจากที่เลิกเรียนก็อยู่บ้านกับพ่อตามลำพังจนกระทั่งถูกพ่อบังคับขืนใจและข่มขืนอาทิตย์ 1 ถึง 2 ครั้ง และเรื่อยๆมาจนกระทั่งตั้งท้องได้ 8 เดือน จากนั้นจึงนำตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี เพื่อหาหลักฐานออกหมายจับดำเนินคดีพ่อที่ข่มขืนลูกสาวต่อไป
ส่วนนายกิตติชัย เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเด็กเป็นผู้สืบสันดารอยู่ในความปกครองดูแลของเราด้วย ซึ่งโทษก็หนักพอสมควร เบื้องต้นได้ส่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกหาข่าว และเฝ้าดูแลที่บ้านเพื่อจะติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็ว เพราะเป็นคดีที่ชาวบ้านให้ความสนใจ
ล่าสุด พ.ต.ท.ปาพจน์ ศรีทองเพียร สารวัตรป้องกันและปราบปราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี จำนวนหนึ่ง หลังจากที่สืบทราบว่านายกิตติชัย ชินตุ๋ย ผู้ต้องหาที่ข่มขืนกระทำชำเราลูกตัวเองนั้น ได้หลบซ่อนตัวอยู่บริเวณแค้มป์คนงานก่อสร้างโรงเรียนกบินทร์จริยาคม เขตเทศบาลตำบลกบินทร์ จึงเข้าทำการจับกุมได้จึงนำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายกิตติชัย ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เบื้องต้นการสอบสวนผู้ที่เสียหายคือ ด.ญ.เก๋ ยังไม่ได้สอบสวนหาข้อเท็จจริงเพราะอยู่ช่วงวันหยุดต้องรอวันจันทร์ที่จะมาถึงเสียก่อน จากนั้นได้นำตัวนายกิตติชัยไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกบินทร์บุรีก่อน
ด้านนางอำไพ งามเคลือ ผู้เป็นแม่ หลังจากที่ทราบว่าลูกชายถูกจับกุมแล้ว ได้เดินทางไปที่ สภ.กบินทร์บุรี เพื่อไปเยี่ยมลูกชาย และได้นำเสื้อผ้า รวมทั้งผ้าห่มไปด้วย พร้อมกับเปิดเผยว่า รู้สึกทำใจอะไรจะเกิดมันต้องเกิดไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนหลานสาวที่กำลังตั้งทั้งกับลูกชายที่เป็นพ่อแท้ๆของหลาน ปล่อยไปทำเวรกรรมส่วนตนก็จะขอเลี้ยงเองตามมีตามเกิดต่อไป
ต่อมา ร.ต.อ.วิฑูรย์ วงศ์ใหญ่ พนักงานสบสวน สภ.กบินทร์บุรี พร้อมด้วยนางปภาดา เพียรเจริญ กำนันตำบลเมืองเก่า ได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อบันทึกภาพและหาหลักฐานมาประกอบคดี โดยมี ด.ญ.ธีรตา ชินตุ๋ย หรือ น้องเก๋ นามสมมุติ มาชี้จุดเกิดเหตุบริเวณที่นอนของตัวเองที่ถูกนายกิตติชัยลงมือข่มขนจนนับครั้งไม่ถ้วนอย่างละเอียด
ด้าน ด.ญ.ธีรตา ชินตุ๋ย หรือน้องเก๋ เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และลูกในท้องก็จะเลี้ยงดูด้วยเอง จะไม่ให้ใคร ส่วนตอนนี้ได้อาศัยบ้านกำนันที่อยู่ใกล้เคียงหลับนอนเสียก่อนเพื่อความปลอดภัย เพราะอาจจะเจ็บท้องขึ้นมาได้กะทันหันจะได้ไปหาหมอได้ถ่วงที
ส่วนบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านในสภาพเก่าๆมีหลังกะสีเป็นผาบ้านที่ไม่เหมาะสมและความปลอดภัยเท่าไรนัก หนามซ้ำบริเวณบ้านที่อยู่อาศัยมีกองขยะจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ถูกเจ้าที่มาถมกองไว้เพื่อจะขับไล่ให้ออกจากพื้นที่ทางอ้อม แต่นางอำไพยังไม่ยอมออกเพราะยังไม่มีที่อยู่อาศัย