นายอำเภอสัตหีบ นำกำลังบุกจับ 3 หนุ่มห้วยใหญ่ รวมหัวค้ายาบ้า หวังกำไรแค่เม็ดละ 10 บาท สลดหนึ่งในผู้ต้องหาก้มกราบลาพ่อแก่ชรา และป่วยชดใช้กรรมในคุก อ้างที่ทำเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูรักษาพ่อที่ป่วยหนัก
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 พ.ค. นายนรเสฎฐ์ ศรีตะพัสโส นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อม พ.ต.อ.อนันต์ ภู่ระหงษ์ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ นายชวัฒน์ เทพทัพ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอสัตหีบ นายประพันธุ์ ประทุมชมพู ปลัดอำเภอบางละมุง สนธิกำลังระหว่างชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอสัตหีบ อ.บางละมุง และสภ.ห้วยใหญ่ วางแผนจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดได้ผู้ต้องหา 3 รายคือ นายวันเฉลิม โปร่งกมล อายุ 29 ปี นายรณชัย โปร่งกมล อายุ 29 ปี และนายไพศาล นาคจันทร์ อายุ 26 ปี ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย พร้อมของกลางยาบ้า 45 เม็ด และธนบัตรล่อซื้อ 800 บาท จับกุมได้ภายในชุมชนทุ่งละหาร ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
นายนรเสฎฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องมีการขยายผลจากผู้เสพ ซึ่งให้การซัดทอดซื้อยาบ้ามาจากนายวันเฉลิม จึงวางแผนล่อซื้อยา 4 เม็ดในราคา 800 บาท ก่อนจับกุมได้ที่บ้านพักเลขที่ 25/1 หมู่ 9 ต.ห้วยใหญ่ โดยพบหลักฐานธนบัตรล่อซื้ออยู่ในกระเป๋ากางเกง ซึ่งผู้ต้องหานำชี้จุดบริเวณตู้กับข้าวข้างบ้านที่ซุกยาบ้าไว้อีก 41 เม็ด บรรจุอยู่ในภาชนะพลาสติกทรงกลม พร้อมให้การซัดทอดว่า ยาบ้าดังกล่าวรับซื้อมาจากนายรณชัย 50 เม็ด ราคาเม็ดละ 130 บาท จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวไว้ได้ทันควันขณะพยายามขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี บริเวณอู่ซ่อมเรือ ไม่มีเลขที่ หมู่ 8 ต.ห้วยใหญ่
เบื้องต้นให้การรับสารภาพเป็นความจริง พร้อมให้การซัดทอดว่า ยาบ้าที่นำมาจำหน่ายรับมาจากนายไพศาลในราคาเม็ดละ 120 บาท ขายเอากำไรเพียงเม็ดละ 10 บาท จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวนายไพศาลได้ภายในบ้านพักเลขที่ 105/1 หมู่ 8 ต.ห้วยใหญ่ แต่นายไพศาลไหวตัวนุ่งกางเกงในตัวเดียวหนีออกมาจากในบ้านฝ่าวงล้อมชนิดไม่คิดชีวิต แต่ก็ถูกไล่กวดติดตามจับกุมตัวไว้ได้ เบื้องต้นให้การรับสารภาพ ขายยาบ้าจริง แต่ไม่ยินดีให้ข้อมูลสาวถึงตัวการใหญ่ จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุม 3 ผู้ต้องหา ที่เป็นเพื่อนร่วมกันค้ายาบ้า เพื่อหวังเพียงเงินกำไรเม็ดละ 10 บาท โดยไม่คำนึงถึงอนาคตที่อาจต้องติดคุกยาวนานหลายปี และเป็นที่น่าสลดหดหู่ใจเมื่อนายวันเฉลิมหนึ่งในผู้ต้องหายึดอาชีพเก็บของเก่าเลี้ยงดูแลพ่อที่แก่ชรา และกำลังล้มป่วย รู้สึกสำนึกผิดได้เข้าไปก้มลงกราบ และโอบกอดขอขมาผู้เป็นพ่อ เพื่อลาไปชดใช้สิ่งที่ก่อในเรือนจำฯ เป็นภาพที่น่าสลดหดหู่แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง.